Latest Posts

เลิกรอส้มหล่น #อยากขายเป๊ะปัง แต่ไม่อยากเจ็บ



เลิกรอส้มหล่น #อยากขายเป๊ะปัง แต่ไม่อยากเจ็บ เป็นไปไม่ได้.... หนังสือบทความเขียนกันเยอะ…เรื่องการใช้คอนเท้นท์มาช่วยสร้างแบรนด์ อ่านเยอะๆฝึกเยอะๆสังเกตุเยอะๆ อย่าคิดว่า ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก รู้ดี สะกดคำเขียนข้อความทำได้ มัวแต่ขยี้จี้ที่ปัญหา ลืมไปว่า...คอนเท้นท์บนสื่อโซเชี่ยล…มันต่างจากสื่ออื่น นะ

ความต่างนี้แหละ…ทำให้หลายคนเจออาการ โพสต์แล้ว กดโปรโมทก็แล้ว ทำไมยังขายไม่ได้… เอาหล่ะ…บ่นเยอะแล้ว มาลองดู 10 เทคนิคที่พี่นำมาฝากในโพสต์นี้นะคะ

1. หลงทางแบรนด์พาเสียเวลา คิดเรื่องแบรนด์ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าเราตัวลีบพิกล บางคนคิดว่า สินค้าตัวเองไม่กี่ร้อยบาท ไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องแบรนด์แล้วกัน พี่จะอุปมาแบบง่ายๆ ถูกบ้างเพี้ยนบ้าง พอให้เห็นภาพลางๆก่อน เปรียบแบรนด์เหมือนงานปาร์ตี้ ปาร์ตี้อะไร ธีมงานแบบไหน จัดงานลัษณะไหน อาหารอะไรบ้าง แต่งตัวประมาณไหน การแสดงต้องเป็นประเภทอะไร บลาๆๆๆๆ เวลาคิดเรื่องแบรนด์ ถ้าไปยึดที่คำหรูมากจะมึน ก็คิดง่ายๆว่า สินค้าอะไร เด่นอะไร รูปลักษณ์สินค้าประมาณไหน อยากให้ภาพสื่อออกมาแนวไหน โทนสีอะไร ใช้ฟ้อนแบบไหน โปรจัดอะไรดีให้เหมาะ บลาๆๆๆๆ คิดแบบนี้จะพอเห็นภาพได้บ้าง สิ่งที่คิดมันมาโยงกับคอนเท้นท์ทั้งนั้น

2.โฟกัสให้ถูกที่ อย่ามัวแต่คิดว่าจะขายสินค้า อยากบอกอยากเล่าความดีงามของสินค้า รู้แล้วๆต้องเข้าใจลูกค้า แต่ตั้งสติตกผลึก…รู้แค่ไหน ลูกค้ายอมจ่ายเงินเพื่อบางสิ่งที่ช่วยเติมเต็มสิ่งที่เขาไม่มี…ขาด…ต้องการ…จำเป็น…ตะหากนะ มัวแต่โฟกัสเรื่องสินค้า ไม่เข้าใจลูกค้า ก็เหมือนคุยกันคนละคลื่น จูนไปเหอะ…แล้วก็ไปนั่งคิด ทำไมนะ…สินค้าก็ดี ไม่เห็นมีคนสนใจ เดาทางลูกค้าไม่ถูก การวางคอนเท้นท์ก็พลาดนะคะ

อ่านเรื่องเต็ม คลิก https://www.wazinee.com/branding/10tips_showbrand/

แอนนาทีวีพูล สอนเฟสบุ๊คไลฟ


- หัวข้อไลฟ์ Caption สั้นๆก้พอ แต่ต้องหยุดคนที่เห็นได้ (แบบน่าตื่นเต้นหน่อย) อย่าไปตั้งขายของโจ่งแจ้ง แล้วยิ่งแคปชั่นยาวเท่าไหร่ Fb.มันจะจับเจอคำบางคำที่จำกัดการมองเห็น
- ให้พูดไปเลย ไม่ต้องไปรอคนดู
- ไลฟ์สั้นๆ 10-15 นาทีก้พอ ไม่ต้องถึง40-1ชม. เผื่อที่ว่าคนมาดูย้อนหลังอาจจะอยากดู แต่ถ้านานไปไม่มีใครอยากย้อนดู
- อย่าปักหมุด Line @ ในไลฟ์ มันจะเด้งหรือลดการมองเห็น (ห้ามใช้เครื่องตัวเองปัก) วิธีแก้คือ เอาอีกเครื่องมาปัก
- อย่า Copy link ไปให้คนอื่นช่วยแชร์ จะเกิดการแจ้งเตือนจาก Fb. เกี่ยวกับความเสียหาย
- อย่าหยิบสินค้าขึ้นมาในไลฟ์นานๆ เพราะ fb.มันจะจับได้ ว่าเฟสเราขายของ และบางทีมีผลทำให้ภาพไม่ตรงเสียงเริ่มเกิดปัญหาตามมา
- ถ้าเราอาย ให้คิดว่า...เราคุยอยู่กับเพื่อน
- อย่าไลฟ์อะไรที่มีความเห็นหรือทัศนคติติดลบหรือ ณ โมเม้นนั้นเป็นพลังลบๆ จงไลฟ์เกี่ยวกับพลังด้านบวก
- คนที่เริ่มไลฟ์อาจจะจำกัดเก็นแค่เพื่อนก่อน เพราะบางทีเราอาจจะเจอคอมเม้นที่ทำไห้เราจิตตก เพราะฉะนั้น อย่าโฟกัสคอมเม้นจนเกินไป 
- ช่วงเวลามีผลต่อการไลฟ์ (ถ้ากลุ่มแม่บ้าน เค้าจะว่างดูช่วงบ่ายโมง-บ่ายสาม) แต่ถ้าเป็น (แมสทั่วไป ก้หลัง 2 ทุ่ม อายุ 20+ มีกำลังซื้อ แต่มีคู่แข่งเยอะ)
- หากจะไลฟ์ในกลุ่มปิด สิ่งที่จำกัดน้อย สามารถทำอะไรได้มากกว่าไลฟ์สาธารณะ
- fb.จำกัดการมองเห็นเยอะ แนะนำว่า ให้ไลฟ์ในเพจแล้วแชร์มาที่เฟสส่วนตัวจะดี
- ห้ามโพสถี่ ควรเว้น 1-2 ชม.ต่อ 1 โพส วันนึงไม่ควรโพสเกิน 8 โพส และจงคิดก่อนโพส อย่าโพสๆแบบไม่คิด ไม่เกิดประสิทธิภาพหรือไม่ได้เงิน
- อย่า Copy ข้อความใครมาโพส #เป็นการฆ่าตัวตายทางนึง fb.ชอบความสดใหม่ของโพสเสมอ
- เวลาไลฟ์ อาจใส่ hashtag เริ่ดๆ ได้ 1-3 # แต่อย่าใส่มากกว่านั้น ดูรกรุงรัง และอาจถูกจำกัดการมองเห็น แต่ถ้า ig ใส่ไปเถอะ
- ถ้าไลฟ์ไหนมีคนมาฝากร้านเยอะๆ หรือมีใครไปก้อปข้อความอะไรมาลงในไลฟ์เรา มันจะยิ่งลดการมองเห็นของเจ้าของไลฟ์
- หากเกิดปัญหาเรื่องการเม้นใต้โพสแบบใช้รูปภาพเม้น บางทีได้ บางทีไม่ได้ **นั่นคือสัญญาณเตือนว่า fb.ของคุณกำลังถูกเพ่งเล่ง กำลังถูกจับตามอง 

ปล.สรุปมาให้ตามแบบที่ตัวเองเข้าใจ ไม่หวงความรู้ค่ะ **จะดีมาก ถ้าเปลี่ยนจากการ copy ข้อความเราไปลง และช่วยแชร์ความรู้ส่งต่อแม่ค้าด้วยกันเอง 😊

คำโฆษณาที่ อย.ห้ามใช้



🚫คำโฆษณาที่ อย.ห้ามใช้🚫
❌ดื้อยาก็ลดได้
❌ลดอ้วนเร่งด่วน
❌ผอมจริง ไม่โยโย่
❌ลดจริง พิสูจน์ได้
❌ลดต้นแขน
❌ลดต้นขา
❌ทำให้หน้าเรียว
❌Slim
❌14 วัน ขาว เนียน ใส
❌กินแล้วสวยจากภายใน.....วัน
❌กินแล้วรักษา ฝ้า กระ จุดด่างดํา
❌ขาวใสใน 1 นาที
❌ขาวจริงใน 7 วัน
❌ขาวขั้นเทพ
❌ขาวจริง ขาวไว
หรือคำที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง “ห้ามโพส”❌ห้ามมีคำว่า👉ขาว👈
👉ผอม👈👉ออร่า👈

#คำเหล่านี้หากลงโฆษณาเฟส
#ก็อาจไม่ผ่านการอนุมัติ

🆗️ตัวอย่างคำที่ใช้ได้กับผลิตภัณฑ์ของเรา🆗️
✔หุ่นเฟิร์มขึ้น
✔ผิวพรรณดูดีขึ้น
✔ช่วยควบคุมน้ำหนัก
✔ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญดีขึ้น
✔ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย
✔ทานแล้วใจไม่สั่น
✔ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ12ชนิด
✔ช่วยให้สัดส่วนกระชับรูปร่างดีขึ้น
✔ผิวพรรณเปร่งปลั่ง
✔ผิวกระจ่างใส

#แม่ค้าออนไลน์ขายไงว่ะbyครูปุ้ย
โปรดเซฟเก็บ ทำความเข้าใจ และ ทำตามนะคะ
#ข้อความที่ไม่ควรใช้โฆษณา

สรุปเทรนนิ่ง by DL.อุ๊

สรุปเทรนนิ่ง by DL.อุ๊
02/07/2018



1. AK91 ได้รับการรับรองจากสคบ.เรียบร้อยแล้ว บริษัทจะเตรียมเอกสารเพื่อให้ตัวแทนสามารถใช้อ้างอิงความถูกต้องกับลูกค้า หรือตัวแทนในสายงานได้

2.สินค้าทุกตัวที่ผลิตโดยโรงงานของบอส คือ Cell Nature จะได้รับฮาลาลทันที เพราะโรงงานได้ฮาลาล

3.ความมั่นใจในแบรนด์ ต้องเริ่มจากตัวแม่ทีมก่อน มั่นใจในสินค้า มั่นใจบอส และต้องมั่นใจในทีม

4.บอสของเราเป็นผู้บริหารที่สามารถคาดการณ์สถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ ในเรื่องของมุมมองธุรกิจ และเป็นคนที่ตั้งใจทำงานแบบเต็มที่

5.จากวันแรกจนถึงวันนี้ AK91 คือแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดการทำตลาดแบบ Super Marketing

6.สินค้าแต่ละตัวจะมีช่วงระยะเวลาที่สามารถทำการตลาดได้ดี เรียกว่า Product Life Cycle แต่ช่วง เมษา-พฤษภา ของทุกแบรนด์จะเป็นช่วงขาลง คนจะไม่ค่อยอยากใช้เงิน ทำให้การตัดสินใจซื้อยากขึ้น

7.แอลบี&เอธธีน&บีเคิฟ์ว ก็ยังทำการตลาดไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็นช่วงเดือนไหน

8.สิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นแม่ค้าออนไลน์ คือการติดตามลูกค้าเดิมที่สั่งไปแล้วว่า คนนี้ซื้อไปเท่าไหร่ หมดรึยัง ผลลัพธ์เป็นยังไง จะสามารถรีออเดอร์ได้มั้ย พยายามติดตามผลทุกสัปดาห์ ทุกเดือน

9.ลูกค้ามีโอกาสเปลี่ยนเป็นตัวแทน ที่มีศักยภาพในอนาคต ดังนั้น ให้ติดตามลูกค้าแต่ละรายให้ใกล้ชิดมากขึ้น

10.พยายามโพสต์รูปตัวเองคู่กับสินค้าบ่อยๆ หรืออาจทำเป็นคลิปออกมาเพื่อรีวิวสินค้าด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่ถ่ายรูปกล่องหรือลังสินค้าเท่านั้นมันจะขาดความน่าสนใจ

11.เวลาโพสต์ให้ระวังข้อความแคปชั่น ให้ถูกต้องอย่าเกินจริง ส่วนภาพเน้นให้ใช้ภาพอาร์ตเวิร์คของบริษัทเท่านั้นก่อนค่ะ

12.เวลาโพสต์อย่าโพสต์แต่เรื่องลบๆ

13.ตัวแทนที่เค้าตั้งใจลงทุนกับเรา เค้าจะมาฝากความหวัง ฝากอนาคตกับเรา เราต้องดูแลเค้าให้เต็มที่ สนับสนุนเค้าในทุกๆทางที่เราสามารถทำได้

14.การปิดตัวแทนแบบที่ไม่ควรทำ!!!!! คือ การไปโปรโมตว่า “มาสมัครตัวแทนกับเราสิ แล้วเราจะโยนออเดอร์ให้” เพราะมันจะสร้างนิสัยให้เค้าไม่พัฒนาตัวเอง เพราะมัวแต่รอคอยออเดอร์โยน

15.อย่าทำตัวเป็นก้อนหิน นั่งโง่ๆเพื่อรอยอดของลูกทีม ลูกทีมไม่ใช่ลูกจ้าง!!! เป็นแม่ทีมอย่าทำตัวเป็นเสือหิว!!! แต่ให้ดูแลตัวแทนจริงๆ ทำตัวเป็นแบบอย่าง ไม่เอาเปรียบเค้า ไม่คิดแต่จะหาผลประโยชน์จากเค้า

16.บอสส่องเฟสทุกคน และคอยติดตามการทำงานของแต่ละคนด้วยตัวเอง

17.ถ้ามีใครที่ต้องการแยกตัวหรือหลุดไปจากทีมของเรา เราไม่ต้องเสียใจ ให้เดินหน้าต่อ

18.ถ้าแม่ทีมไม่ตั้งใจทำงาน แต่ตัวเราก็ลุยทำงานไปด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องง้อแม่ทีม แล้วถ้ามีตัวแทน เราก็ต้องยิ่งทำเพื่อผลักดันตัวแทนของเราให้ประสบความสำเร็จให้มากที่สุด

19.ถ้าเรามีจุดแข็งอะไร ให้ทำให้เป็นแบบอย่างให้กับตัวแทน แต่ถ้าสิ่งที่เป็นจุดอ่อน ให้พยายามเก็บไว้ไม่แสดงให้ตัวแทนเห็น

20.เรื่องดีๆให้แชร์ลงล่างสู่ตัวแทน ส่วนเรื่องแย่ๆให้แชร์ขึ้นหาแม่ทีมเพื่อหาทางแก้ไข

21.บอสจะออกเดินสายพบปะตัวแทนตามจังหวัดต่างๆให้ได้ทั่วถึงมากที่สุด

22.โปรเจค Blue Sky รอยาวๆไปช่วงปลายปี

23.สตรองทีม จะจัดทำของแถมเฉพาะของทีมเราเองเพื่อแจกลูกค้า โดยได้รับเงินสนับสนุนให้ เนื่องจาก Bio-C สินค้าไม่พอแจกแน่นอน

24.แคมเปญไปรยา ให้ทุกคนเตรียมสายวัด แล้วโพสต์ให้เป็นกระแสให้เหมือนๆกัน

25.หลังจบล็อตเอธธีน 1.4 จะมีการเปลี่ยนแปลงปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง ให้คอยติดตาม

26.วันพุธนี้ บอสจะลงไปทลายตลาดขายส่งดอนเมืองที่ขายตัดราคา โดยผู้กำกับสน.ดอนเมืองจะลงไปดูแลด้วยตัวเอง โดยใช้หมายศาล “ห้ามชายสินค้าแบรนด์ AK91 ตลอดชีวิต” หากฝ่าฝืนหมายศาล จะถูกฟ้องในคดีอาญาต่อไป

วางแผนการเงินแบบคนรวย

มาดูกันว่า...คนรวยเค้าวางแผนยังไง เค้าถึงได้ ร้วย...รวย



1.เรื่องวางแผนทางการเงิน  โดยเริ่มจากความจำเป็นขั้นพื้นฐาน 3-6 เท่าของรายจ่ายเดือน ในธนาคารหากมีมากกว่านี้ จะเป็น Lazy Money (เงินขี้เกียจ)
2.ฝากเงินธนาคาร มีความเสี่ยง กับอัตราเงินเฟ้อที่มาก (เงินเฟื้อยกตัวอย่างก๋วยเตี๋ยว 10 ปีก่อน 10 บาท ตอนนี้ 50 บาท )
3.การซื้อสุขภาพในปัจจุบันเป็นการซื้อความเสี่ยงในอนาคต เพราะหากไม่เตรียมความพร้อม  เงินที่หามาทั้งชีวิตอาจจะต้องมาใช้รักษาหมด
4.ประกันชีวิตสามารถลดหย่อนภาษีได้ สูงสุด 100,000 บาท
5.ประกันชีวิตแบบกองทุน มีความเสี่ยงกว่าฝากออม แต่ผลประโยชน์ดีกว่า(ลดความเสี่ยง คือเวลา)
6.การลงทุนในความมั่งคั่ง เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ กองทุนรวมปันผล หุ้นคุณค่า
7.ข้อดีของบัตรเครดิต สามารถสะสมแต้มได้ แต่วินัยการเงินต้องดี
8.ไม่มีเงินเดือน แต่สเตทเม้นดีก็สามารถทำบัตรเครดิตได้
9.บริหารเงินด้วย ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น กับค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
10.สบัดบ็อบใส่สาวแบ้งค์ “ไม่ช่วย”
11.ซื้อสินทรัพย์ซื้อการเงิน ห้ามซื้อผ่านเคอร์เตอร์หรือผ่านโทรศัพท์ เพราะคนขายจะขาดความรับผิดชอบ
12.การซื้อรถ ต้องคิดถึงค่าเสื่อม ว่าเหมาะสมไหม ออกรถมาเพื่ออะไร ธุรกิจหรือแค่โชว์
13.ซื้อรถในชื่อบุคคล ไม่สามารถใช้เรื่องภาษีได้ ถ้าบริษัทสามารถลดหย่อนได้ เสียภาษีสูงเสมือนได้รถมาฟรี
14.วางแผนเกษียณ สิ่งที่จำเป็นที่สุด เพื่อนำเงินไปใช้ในอนาคต
15.ทำอะไรต้องโฟกัส เพื่อไปถึงเป้าหมาย

(พี่จิตร)

งูพันใบเลื่อยจนตาย



เรื่องเล่า 🧐  ข้อคิดดีๆ  ยืมเค้ามาแชร์ค่ะ
จาก งูตัวหนึ่งเลื้อยเข้าไปในโรงไม้  มันไถลเลื้อยข้ามเลื่อยใบหนึ่ง มันเจ็บปวดมาก เลยหันหัวแว้งฉกกัดเลื่อย. แต่กลับทำให้ปากมันมีแผลเหวอะโดยไม่ได้ยั้งคิด มันกลับเข้าใจว่า มันกำลังถูกจู่โจมโดยเลื่อย. มันตัดสินใจ เลื้อยโอบรอบตัวเลื่อย แล้วจัดการรัดเจ้าเลื่อยอย่างเต็มกำลัง. แต่สิ่งที่ได้ คือ มันกลับถูกเลื่อยฆ่ามันตายในที่สุด

อย่าคิดว่าตัวเองแน่ แล้วใช้อารมณ์ เพราะบางปัญหา อารมณ์ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ บางทีอาจจะคิดว่าการบาดเจ็บเกิดจากคนอื่น แต่จริงๆ อาจจะเกิดจากจุดอ่อนตัวเอง

ข้อคิด 

ในบางครั้ง เราตอบโต้ความโกรธ ด้วยการคิดทำร้ายคนๆนั้น แต่เราไม่ได้ฉุกคิดเลยว่า ในที่สุดแล้ว เรากลับกำลังทำร้ายตัวเองอยู่

ในชีวิตจริง บางทีมันจะดีกว่า ถ้าเราไม่สนใจต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
ไม่สนใจคนพวกนั้น ไม่สนใจพฤติกรรมเหล่านั้น แม้แต่คำพูดของพวกเขา

ในบางครั้ง มันจะดีซะกว่า หากเราไม่โต้ตอบ เพราะมันอาจจะไม่ใช่แค่  ได้ผลลัพท์ที่เลวร้าย แต่อาจเป็นภัยที่ร้ายแรงขั้นถึงชีวิตกันเลยที่เดียว

อย่าปล่อยให้ความโกรธครอบงำชีวิตคุณ แต่กลับเป็นความรัก ที่อยู่เหนือทุกสิ่ง

จงยิ้มเข้าไว้ แผ่ความสุขในตัวคุณออกไป

นี่คือ กฎของธรรมชาติ

อาหารที่เรากิน จะถูกย่อยและถูกขับออกไปภายใน 24ชม. ไม่เช่นนั้น เราจะป่วย

น้ำที่เรากิน เข้าสู่ภายในร่างกาย และจะถูกขับออกมา ในอีก 4ชม. ไม่เช่นนั้น เราจะไม่สบาย

อากาศที่เราหายใจเข้าไป จะถูกดันออกมา ในเวลาแค่ 1 นาที ไม่เช่นนั้น เราก็จะตาย...

แล้วนับประสาอะไรกับอารมณ์ที่ไม่น่าพิศมัยต่างๆ เช่น ความโกรธ ความอาฆาตพยาบาท ความอิจฉาริษยา  ความหวั่นไหวในจิตใจทั้งหลาย.  แต่เรากลับเก็บสิ่งพวกนี้ไว้กับเรา เป็นแรมเดือนแรมปี

หากอารมณ์แย่ๆทั้งหลายยังไม่ถูกกำจัดออกไปจากใจเรา. มันก็จะกัดกร่อนจิตใจส่วนดี และทำให้ร่างกายนี้เจ็บป่วยตามไปด้วย

การมีสติ  กลับมารู้สึกตัว ถือเป็นวิธีที่ไวและให้ผลลัพท์ที่ดีที่สุด ในการชนะอารมณ์ลบๆในจิตใจของเรา.

#ดึงสติค่ะ 👌🏻👌🏻

เติมความมั่นใจ ใส่ใจในสินค้า คิดค้นพัฒนา แล้วพาตัวเอง ไปรวยกัน



1. ภาษากาย บุคลิก ลุค มั่นใจจากภายใน หน้า นม ผมเผ้า สวยและรวยมาก

2. สร้างตัวตน หาข้อดีของตัวเอง

3. ก้าวข้ามความกลัว ถ้าไม่มั่นใจ ไปฝึก หาไอดอลของเรา ฟังเยอะๆ ฝึกเยอะๆ

4. จุดภายใน ความเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเอง

3 ข้อ รักษา
-เมื่อเราทำอะไรแล้วล้มเหลว ให้เรียนรู้จากความล้มเหลวให้มากพอ ฝืนตัวเองเพื่อพัฒนา

-โลกนี้ไม่ต้องการใครชม ชมตัวเองได้ค่ะ

-ดูแลตัวเองให้ดีพอ ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง ดูแคความฝัน อย่าปิดกั้นตัวเอง เช็คสติตัวเองอยู่เสมอ


-จงสร้างความสำเร็จในทุกๆวัน แม้จะเล็กๆน้อย

-เติมความมั่นใจ ใส่ใจสินค้า
ทุกตัวที่คุณขาย คุณต้องขาย คุณต้องกิน ต้องทราบข้อมูล
เรารู้จักสินค้าแค่ไหน หาจุดแข็งของสินค้าออกมา ประกาศเลยว่าสินค้าเราดียังไง

-หาจุดแข็งได้ เราก็จะคิดคอนเทนต์เองได้

-คิดค้น และ พัฒนา ขอบคุณเว็บไซต์ต่างๆ เช่น facebook google youtube ของมันศึกษาได้
หาจุดเด่น จุดด้อย หมั่นฝึกฝนบ่อยๆ

-อยากเก่งเรื่องไหน ให้ลอกเลียนแบบคนที่เก่งเรื่องนั้น หลักการ Modeling

-วันนึงเราจะคล้ายเขา แต่ทุกคนจะมีสไตล์เป็นของตัวเองที่แตกต่างกัน

-อยากเป็นแม่ทีมแบบไหน อยากเป็นแม่ค้าออนไลน์แบบไหน ต้องปรึกษาแม่ทีม เพราะแม่ทีมเขาไม่รู้อยากรู้เรื่องอะไร

-อยากโดดเด่นต้องรีบฉายแสง บอสไม่ได้จะดันแค่แม่ทีมติดตัว

-ไลฟ์สดเรื่องที่ตนเองถนัด แบ่งปันแชร์เรื่องราวดีๆให้โลกใบนี้

-Master Pop แนะนำหนังสือ Strength Finder และสอนว่า ถึงแม้จะมีคนเกลียดมากแค่ไหน
แต่จะมีอย่างน้อย 1 คนที่รักและสนใจเรา

#เราทุกคนเป็นสีสันของโลกใบนี้

Starbucks ปฏิเสธ”พวกเราไม่ได้รับ Bitcoin แต่จะช่วยให้ผู้คนชำระมันได้ง่ายขึ้น”

Starbucks ปฏิเสธ”พวกเราไม่ได้รับ Bitcoin แต่จะช่วยให้ผู้คนชำระมันได้ง่ายขึ้น”


อ้างอิงจาก Motherbard.vice รายงานในวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าการจับมือของ Starbucks กับ Microsoft นั้นจะไม่ได้ทำให้ลูกค้าสามารถจ่ายค่ากาแฟด้วย Bitcoin ได้แต่อย่างใด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Starbucks ได้ประกาศจับมือกับ Microsoft และ Intercontinental Exchange นาม Bakkt เพื่อร่วมมือกันพัฒนาแพลตฟอร์มด้าน Cryptocurrency ซึ่งส่งผลให้มีการเข้าใจที่ผิดพลาดว่า ลูกค้าของ Starbucks จะสามารถจ่ายค่ากาแฟด้วย Bitcoin ได้
อย่างไรก็ตาม อ้างอิงจากตัวแทนของ Starbucks พวกเขาไม่ได้ต้องการ Bitcoin แต่พวกเขาต้องการที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถชำระมันได้ โดยการจับมือครั้งนี้ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่จะแปลง Cryptocurrency เป็นเงินดอลลาร์ ซึ่งพวกเขาจะนำเงินมาชำระต่อที่ Starbucks ตามสาขาต่าง ๆ และ Starbucks จะเป็น Partner ซึ่งจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับผู้ค้ารายย่อย เพื่อพัฒนาการใช้งานให้เป็นจริง
ตัวแทนของ Starbucks ได้ชี้แจงว่า:
“มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ที่จะทุกคนต้องทราบว่า Starbucks ไม่ได้รับสินทรัพย์ดิจิทัล แต่แพลตฟอร์มจะเป็นตัวแปลงจากสินทรัพย์ดิจิทัลเช่น Bitcoin เป็นดอลลาร์ ซึ่งดอลลาร์นั้นจะนำมาใช้ที่ Starbucks อีกรอบ”
และเขากล่าวถึงแผนการในอนาคตว่า:
“ปัจจุบันเราได้ประกาศการว่าจะสามารถแลกเปลี่ยนจาก Bitcoin เป็นเงินดอลลาร์ได้ อย่างไรก็ตาม เราจะหารือในประเด็นดังกล่าวกับลูกค้าและผู้ออกกฎหมายในเวลาต่อไป”

แบงค์ชาติอนุญาตธนาคารพาณิชย์จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับ Cryptocurrency

แบงค์ชาติอนุญาตธนาคารพาณิชย์จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับ Cryptocurrency


ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์สามารถที่จะสร้างเหรียญดิจิทัล, ให้บริการเป็นนายหน้าซื้อขายคริปโต ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับคริปโตและลงทุนในคริปโตผ่านทางบริษัทย่อยได้ อย่างไรก็ตามการประกาศล่าสุดได้ย้ำว่าทุกธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ ยังคงห้ามไม่ให้มีการซื้อขายโดยตรงกับสกุลเงิน Cryptocurrencies
ธนาคารพาณิชย์ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งสาขาไว้ทำธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโตได้ แต่บริษัทย่อยนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้นำเสนอการให้บริการที่เกี่ยวข้องคริปโตแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไปและสามารถทำกิจกรรมกับธุรกิจอื่น ๆ ที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (ค.ป.ภ.) เท่านั้น นอกจากนี้ บริษัทย่อยเหล่านั้นยังไม่ได้รับอนุญาตให้เสนอบริการที่เกี่ยวข้องกับคริปโตให้แก่บุคคลเป็นการเฉพาะรายได้
บริษัทย่อยได้รับอนุญาตให้จัดหาแหล่งเงินลงทุนแก่ลูกค้าเว้นแต่ลูกค้าเหล่านั้นต้องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มุ่งพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน (Financial Innovation) หรือเพื่อเพิ่มคุณภาพของบริการทางการเงินซึ่งในกรณีเหล่านี้ลูกค้าสามารถใช้ BoT Regulatory Sandbox ได้เลย
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทยได้เผยแพร่หนังสือเวียนโดยมีสาระสำคัญเป็นการห้ามสถาบันการเงินในประเทศไทยในการลงทุนและซื้อขายหลักทรัพย์คริปโตรวมถึงการมีส่วนร่วมในการจัดตั้งเว็บเทรดคริปโตห้ามมิให้ธนาคารพาณิชย์ให้คำแนะนำบุคคลทั่วไปเกี่ยวกับการลงทุนหรือการซื้อขายหลักทรัพย์ของและห้ามไม่ให้ลูกค้าใช้บัตรเครดิตในการสั่งซื้อคริปโต
ในเดือนพฤษภาคมรัฐบาลไทยได้ออกการกำกับดูแลที่กำหนดว่า Cryptocurrencies หมายความรวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลและดิจิทัลโทเคนและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. และในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาแนวทางใหม่ในการชำระบัญชีระหว่างธนาคารโดยใช้สกุลเงินของธนาคารกลางที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) การที่ธนาคารกลางยอมรับ Cryptocurrency ของตัวเองจะลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมรวมทั้งลดเวลาตรวจสอบลง
ก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนกรกฎาคมรัฐบาลไทยได้ออกกฎระเบียบเกี่ยวกับ ICO (Initial Coin Offering) ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศต้นๆของโลกที่อนุญาตให้การทำ ICOs สามารถดำเนินการได้อย่างรูปแบบและถูกต้องตามกฎหมาย


Starbucks จับมือกับ Microsoft เตรียมให้ลูกค้าจ่ายค่ากาแฟเป็น Bitcoin ได้

Starbucks จับมือกับ Microsoft เตรียมให้ลูกค้าจ่ายค่ากาแฟเป็น Bitcoin ได้


ดูเหมือนว่า Starbucks กำลังเริ่มก้าวเข้ามาในโลกของคริปโตแล้ว

บริษัทด้านร้านกาแฟระดับโลก Starbucks จับมือกับบริษัทด้าน software ยักษ์ใหญ่ Microsoft, บริษัทด้าน exchange ระดับโลก Intercontinental Exchange และบริษัทอื่นอีกมาก เพื่อร่วมกันพัฒนาแพลทฟอร์มดิจิทัลที่จะให้ผู้ใช้งานสามารถจ่ายค่าเครื่องดื่มเป็น Bitcoin และ cryptocurrency ตัวอื่น ๆ ได้ที่ Starbucks

แพลทฟอร์มดังกล่าวจะมีชื่อว่า Bakkt โดยลูกค้าทั่วไปและแบบสถาบันจะสามารถซื้อ, ขาย, เก็บ และจ่าย cryptocurrency บนแพลทฟอร์มดังกล่าวนี้ได้ ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยแพลทฟอร์มที่ว่านี้จะสามารถแปลง Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่น ๆ เป็นสกุลเงินดอลลาร์ เพื่อนำไปซื้อกาแฟที่ Starbucks ได้

นาง Maria Smith รองประธานของฝ่าย partner และ payment ของ Starbucks กล่าวว่า

“ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านการค้าปลีกนั้น ทาง Starbucks มีส่วนสำคัญในด้านการพัฒนา application ที่สามารถไว้ใจได้ และถูกกฎหมายสำหรับผู้บริโภค เพื่อที่จะแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลของพวกเขาให้มาเป็นสกุลเงินดอลลาร์ได้ที่ Starbucks”

ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนเคยรายงานไปแล้วเมื่อปี 2016 ว่าผู้ที่ต้องการจะชำระค่ากาแฟเป็น Bitcoin นั้นจะต้องใช้แพลทฟอร์มแบบ 3rd party อื่น ๆ อย่างเช่น iPayYou เท่านั้น ซึ่งการเคลื่อนไหวในครั้งนี้สอดคล้องกับการที่ผู้บริหารระดับสูงของ Starbucks นาย Howard Shultz เคยออกมากล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่าทาง Starbucks อาจจะใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการพัฒนาแอพสำหรับจ่ายเงินซื้อกาแฟ

“ผมคิดว่าเทคโนโลยี blockchain นั้นอาจจะเป็นเสมือนรางรถไฟที่จะเชื่อมต่อแอพ Starbucks เข้ากับมัน”

กล่าวโดยนาย Howard Shultz ในขณะนั้น

ที่มา CNBC

By Beam

จะเป็นอย่างไร เมื่อการขุด Bitcoin เป็นมากกว่าการลงทุน ?

จะเป็นอย่างไร เมื่อการขุด Bitcoin เป็นมากกว่าการลงทุน ?


เป็นที่ทราบกับดีว่าการขุดคริปโตนั้นถือเป็นกระดูกสันหลังของ Cryptocurrency ในสกุลหลัก ๆ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากมันถือเป็นกลไกหนึ่งในเทคโนโลยี Blockchain ที่ทำให้เงินดิจิทัลสกุลนั้น ๆ สามารถทำการธุรกรรมได้อย่างถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือ
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา เริ่มมีข้อกังขาว่าเครื่องขุดคริปโตนั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เท่าไรนักในแง่อื่น ๆ เนื่องจากมันมีต้นทุนที่สูง และกินพลังงาน พร้อมทั้งสร้างมลภาวะต่อโลกของเราเป็นอย่างมาก ทำให้เริ่มมีแนวทางต่าง ๆ ออกมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว เช่น ระบบ Proof-of-stake ที่ไม่มีการขุดเกิดขึ้น และใช้การ Stake เหรียญเพื่อยืนยันธุรกรรมในเครือข่ายแทน
ล่าสุด ได้มีข่าวออกมาว่า บริษัท Canaan Creative จะเปิดขายโทรทัศน์ที่สามารถขุด Bitcoin ได้เร็ว ๆ นี้ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในโลกที่มีนักขุดสามารถดูโทรทัศน์ไปได้ และขุด Bitcoin เพื่อหารายได้ในเวลาเดียวกัน

อนาคตของวงการคริปโต


เหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึง วิวัฒนาการและความเป็นไปได้ของวงการคริปโตที่สามารถพัฒนาไปต่อได้อีกไกล ลองจินตาการในอนาคตอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้าที่การใช้ Cryptocurrency และ Blockchain ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากขึ้น และกลายเป็นเรื่องปกติเช่นอินเทอร์เน็ต
เมื่อเราทำการใช้งานอุปกรณ์ใด ๆ ก็ตาม เราจะได้รับโทเคนกลับมาเป็นการตอบแทน ยกตัวอย่างเช่น รถมีเครื่องขุดคริปโตติดอยู่ในเครื่องยนต์ ทำให้เมื่อเราอนุญาตให้เราบริษัทเจ้าของรถสามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับยานยนต์ของเรา และเมื่อเารทำการขับขี่มัน เราจะได้รับการตอบแทนเป็นโทเคนกลับมาเข้า Wallet เราโดยตรง ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดต่าง ๆ ได้เช่น นำโทเคนไปแลกบริการซ่อมรถ, ต่อประกัน หรือซื้ออะไหล่ใหม่เป็นต้น
ในอนาคต Blockchain และ Cryptocurrency จะทำให้เรามีอำนาจในข้อมูลของเรามากยิ่งขึ้น และสามารถเลือกได้ว่าจะให้ข้อมูลของเรากับใคร พร้อมทั้งสามารถสร้างผลประโยชน์จากมันได้ด้วย ระบบต่าง ๆ จะกระจายอำนาจมากไปสู่ผู้ใช้มากขึ้น

มากกว่าการลงทุน


ปัจจุบัน การที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้าสู่วงการคริปโตนั้น เกิดจากพวกเขาต้องการที่จะทำกำไรโดยการลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ในอนาคตด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นไปอย่างรวดเร็ว จะทำให้มันกลายเป็นมากกว่าเครื่องมือในการลงทุน แต่มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนไปเลย เช่นเดียวกันการที่ตอนแรก มือถือเป็นเพียงเครื่องมือสื่อสารกันเท่านั้น แต่เมื่อมันพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ มันกลายเป็นสิ่งที่คนเราไม่สามารถขาดได้ในชีวิตประจำวันเลย และผู้เขียนเชื่อว่าในอนาคตคริปโตจะเข้ามามีผลกระทบเช่นเดียวกันกับที่มือถือ





ถ้าโลกใบนี้ใช้แต่สกุลเงิน Bitcoin จะเป็นเช่นไร ?

ถ้าโลกใบนี้ใช้แต่สกุลเงิน Bitcoin จะเป็นเช่นไร ?


ปัจจุบัน Cryptocurrency กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก และหลาย ๆ ประเทศก็เริ่มสกุลเงินคริปโตหรือเหรียญราชาอย่าง Bitcoin เป็นที่เรียบร้อย แต่ในปัจจุบันในหลาย ๆ ประเทศก็ยังไม่ยอมรับ และ Bitcoin อาจพิจารณาว่าเป็นสิ่งผิดกฏหมายอีกด้วย…
เรามาลองจินตนาการกันว่า ถ้าโลกใบนี้ใช้แต่สกุลเงิน Bitcoin ในการแลกเปลี่ยนหรือใช้บริการจะเป็นอย่างไร

ความโปร่งใส


เราอาจจะเห็นข่าวโกง หรือการหลอกลวงอยู่บ่อย ๆ ในการใช้สกุลเงินทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการโอน แบงค์ปลอม หรืออื่น ๆ
แต่ถ้าเป็น Bitcoin นั้นจะตัดปัญหาเรื่องการถูกหลอกออกไป เพราะว่าด้วยระบบ Blockchain จะเข้ามาแก้ปัญหาในส่วนนี้ และทุกคนสามารถตรวจสอบธุรกรรมได้

ระยะเวลาและค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม


เมื่อปลายปี 2017 หลาย ๆ คนอาจประสบปัญหาในการทำธุรกรรม เพราะว่ามีจำนวนการทำธุรกรรมมหาศาลในช่วงที่ราคา Bitcoin พุ่งสูงนั่นเอง
ในปัจจุบันนั้น ถ้าเราอยากทำธุรกรรมที่รวดเร็ว เราต้องอัดฉีดค่าธรรมเนียมในการทำให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม และถ้าทุกคนคิดเหมือนกัน ก็จะทำให้ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมนั้นมหาศาลนั่นเอง
แต่ถ้าในอนาคตเทคโนโลยี Lightning Network เข้ามาหรือใช้ได้แล้วละก็ ปัญหาระยะเวลาในการทำธุรกรรมก็อาจหมดไปเลยก็เป็นได้ ผู้ใช้งานทั้งหลายก็จะมีความสุข

ราคา


อ้างอิงจากบทความ หาก Bitcoin ถูกขุดขึ้นมาจนหมด อะไรจะเกิดขึ้น ? กล่าวว่ากว่า Bitcoin จะถูกขุดหมดต้องใช้เวลาประมาณ 140 ปี ถึงตอนนั้นพวกเราอาจเกิดและตายสองสามรอบแล้วก็เป็นได้
Bitcoin มีจำนวนจำกัดแค่ 21 ล้าน BTC เท่านั้น และถ้า Demand มากกว่า Supply แล้วละก็ คาดว่าราคา Bitcoin อาจมีราคาสูงมากเช่นกัน แต่ไม่อาจคาดคะเนราคาได้

สรุป

ในอนาคตอาจยังสรุปไม่ได้ว่า ถ้าใช้แต่สกุลเงิน Bitcoin จะเป็นเช่นไร แต่เชื่อว่าจะช่วยในเรื่องความโปร่งใส ความสะดวกในการใช้งาน อย่างแน่นอน





สุขภาพสั้นๆ : ทำไม? อาหารมื้อเย็นจึงเป็นมื้อเจ็บป่วย | นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์

สุขภาพสั้นๆ : ทำไม? อาหารมื้อเย็นจึงเป็นมื้อเจ็บป่วย | นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์



















5 ข้อห้ามทำ เพื่อป้องกันและบำบัดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) | นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์

5 ข้อห้ามทำ เพื่อป้องกันและบำบัดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) | นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์











นาย Bart Smith กล่าว “สถาบันการเงินจะเข้าสู่วงการคริปโต หากมีกฎหมายที่เหมาะสม”

นาย Bart Smith กล่าว “สถาบันการเงินจะเข้าสู่วงการคริปโต หากมีกฎหมายที่เหมาะสม”


ในวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา นาย Bart Smith หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลของ Susquehanna ได้กล่าวในช่วง Fast Money ถึงสถานการณ์ในตลาดคริปโต และอะไรคือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นก่อนที่สถาบันการเงินต่าง ๆ จะเริ่มเข้าลงทุนใน Bitcoin
นาย Smith ได้ระบุว่า ปริมาณการเทรด Bitcoin ในสหรัฐฯ ได้เพิ่มกลับมาเป็น 400 ล้านดอลลาร์ต่อวัน พร้อมทั้งปริมาณการซื้อขายสัญญา Futures ของ CME และ CFE เพิ่มเป็น 400 ล้านดอลลาร์เช่นกันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเรื่องปกติ
ก่อนหน้านี้ Susquehanna ได้มีมุมมองว่า Bitcoin จะเข้าสู่ตลาดกระทิงในปีนี้ ถึงแม้ว่าในช่วงแรก ๆ จะอยู่ในขาลงก็ตาม ในขณะนั้น นาย Smith ได้กล่าวว่า:
“เราเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้ และสินทรัพย์ชนิดนี้จะเปลี่ยนแปลงระบบการเงินไปตลอดกาล และเราเชื่อว่ามันจะคงอยู่ไปตลอดกาล”
ตั้งแต่ที่เขากล่าวในขณะนั้น ตลาดกลับเข้าสู่ขาขึ้นอีกรอบจนกระทั่ง ETF ของสองพี่น้อง Winklevoss ถูกปฏิเสธเป็นครั้งที่สองในไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนหลาย ๆ คนเริ่มเกิดความหวั่นใจ สำหรับตัวเขาเอง การที่ Bitcoin จะกลับเข้าสู่ตลาดกระทิงได้นั้น “ต้องมีกฎหมายที่เหมาะสม”
เขาสรุปว่า ปัจจุบันทุก ๆ คนกำลังเร่งรีบจนเกินไป:
“ทุก ๆ คนต้องการกฎหมายที่เหมาะสมตอนนี้และเดี๋ยวนี้ แต่ต้องเข้าใจก่อนว่ามันคือเรื่องในระยะยาว และผมคิดว่า หลาย ๆ สิ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ยังคงมีผู้คนคอยหาโอกาสอยู่ตลาดเวลา เราจะเห็นวงการคริปโตของเราจะได้รับการยอมรับจากสถาบันต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ ”

เว็บเทรด BitBay ร่วมมือกับบริษัท Blockchain ของเยอรมัน เปิดเทรด Token ด้วยสกุลเงิน Fiat

เว็บเทรด BitBay ร่วมมือกับบริษัท Blockchain ของเยอรมัน เปิดเทรด Token ด้วยสกุลเงิน Fiat


อ้าวอิงจากงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บเทรดคริปโต BitBay ได้ร่วมมือกับบริษัท Berlin-based blockchain-powered ของประเทศเยอรมันนี เพื่อที่จะเปิดการระดมทุนแพลตฟอร์มใหม่ ที่ชื่อว่า “Neufund” ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ ได้เปิดให้บริการซื้อขาย Token ด้วยสกุลเงินทั่วไปอีกด้วย
จุดประสงค์หลัก ๆ ในการสร้างแพลตฟอร์ม Neufund นี้ขึ้นเพื่อที่จะเปลี่ยนหลักทรัพย์ให้เป็น โทเคน ซึ่งทางบริษัทก็ได้นำบริษัท Toronto-based firm Polymath เข้ามาทำการศึกษาข้อมูลและทำวิจัยแพลตฟอรต์นี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมจุดประสงค์ที่ได้สร้างขึ้น ซึ่งบริษัท Polymath คาดว่าภายในปี 2020  ตลาด Security token จะมีมูลค่าถึง 10 ล้านล้านดอลลาร์
ทาง Neufund เชื่อว่า หลักทรัพย์โทเคนนี้ จะสร้างสภาพคล่องที่จำเป็นต่อการลงทุนสินทรัพย์ทั้งในแบบคริปโตหรือแบบทั่วไปก็ตาม
การร่วมมือกับ BitBay ครั้งนี้ เป็นไปตามแบบแผนการร่วมมือล่าสุดของ Neufund กับ เว็บเทรดระดับโลก อย่าง Binance และตลาดหุ้น Malta ที่สำเร็จไปด้วยดี นอกจากนั้นจะมี 7 บริษัท   จาก 5 ประเทศ จะเข้ามาเปิด Equity Token Offerings หรือ ETOs กับ Neufund อีกด้วย
อ้างอิงจากคำแถลงการณ์ของบริษัทกล่าวว่าการร่วมมือของ BitBay กับ Neufund จะเป็นการร่วมมือกันครั้งแรก ที่จะทำให้บริษัทต่าง ๆ สามารถชำระโทเคน หรือทำธุรกรรมต่าง ๆ ด้วยเงินสกุลทั้่วไป เช่นเดียวกับเว็บเทรดคริปโต ที่มีคู่เทรดสกุลเงิน ยูโร, ดอลลาร์และ ซโลว์ทิ โปลิชท์
ซึ่ง ETOs ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อเป็นวิธีการระดมทุนแบบใหม่ ที่ให้สิทธิกับทุกบริษัท ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับ Blockchain  และทาง Neufund ได้กล่าวว่า โปรเจกต์ ETOs นี้ เป็นการรวมเอาของดีและข้อได้เปรียบ ของ Initial Public Offerings (IPOs), Initial Coin Offerrings (ICOs) และ กองทุนร่วมทุน เข้าด้วยกัน
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา BitBay ถูกบังคับให้ย้ายบริษัทจาก Poland ไปที่  Malta เพราะว่าธนาคารท้องถิ่นที่ได้ร่วมมือกับทางเว็บเทรด ได้ระงับการทำธุรกรรมต่าง ๆ  เนื่องจากการออกกฏหมายใหม่ เกี่ยวกับ Cryptocurrencyจากทางรัฐบาล  Poland ที่ได้ส่งผลกระทบอย่างมาก ต่อการระบบการทำงานและข้อตกลงระหว่างทางธนาคารและทางเว็บ BitBay นอกจาก BitBay ก็มีเว็บเทรดใหญ่หลาย ๆ แห่ง เช่น OKEx และ Binance ที่ได้ย้ายบริษัทไปที่ Malta เช่นกัน